This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เมล็ดกาแฟ (coffee bean) แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เมล็ดกาแฟ (coffee bean) แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เทคนิคการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่ว

วิธีการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วต้องดูว่าเครื่องชงที่มีอยู่นั้นเป็นแบบใด หากมีเครื่อง Espresso Machine ก็ควรซื้อเมล็ดกาแฟที่มีฉลากระบุว่า เอสเพรสโซ่ (Espresso) เพราะจะได้เมล็ดกาแฟที่คั่วนาน มีสีเข้ม ให้รสชาติขมอมหวาน และมีกลิ่นหอม ซึ่งส่วนมากจะเป็นเมล็ดพันธุ์อาราบิก้าและควรเลือกกาแฟที่บดแบบละเอียดเท่านั้น แต่ถ้ามีเครื่องแบบ French Press หรือ Drip Coffee Maker ต้องเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วระดับปานกลางถึงเข้ม และใช้กาแฟผงที่บดแบบหยาบ




        หากต้องการซื้อกาแฟคั่วบรรจุผงสำเร็จควรเลือกเมล็ดกาแฟที่บรรจุในถุงฟอยล์ที่ปิดสนิท และถ้าจะให้ดีจริงๆต้องมีวาล์วระบายอากาศ หรือ One Way Valve ที่กลางถุง เนื่องจากเมล็ดกาแฟเมื่อเก็บไว้สักระยะหนึ่งจะเกิดก็าซขึ้นตามธรรมชาติจึงต้องมีที่ระบายก็าซออก (ด้วยการกดถุงเบาๆ บริเวณ One Way Vale) แต่ในขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกเข้ามาในถุงได้



        ควรดูข้อความที่ระบุรายละเอียดที่ข้างถุง ซึ่งบ่งบอกได้ถึงคุณภาพของกาแฟนั้นๆ เช่นพันธุ์กาแฟ ชนิดของกาแฟ ว่าเป็นแบบปกติ หรือไร้สารคาเฟอีน หรือเป็นกาแฟผสมกลิ่น หรือรสพิเศษ เช่น มอคค่า อัลมอนด์ วานิลลา เป็นต้น

    ควรดูประเภทของการคั่ว วันที่คั่ว วันที่บรรจุน้ำหนัก และปริมาณ รวมทั้งพิจารณาการบรรจุว่าเป็นแบบสุญญากาศ ถุงหรือบรรจุภัณฑ์ต้องไม่ชำรุด ฉีกขาด หรือบุบ

    ควรซื้อกาแฟคั่วสำเร็จในปริมาณที่พอใช้ใน 1 สัปดาห์ และดมดูก่อนว่ากาแฟในถุงนั้นยังคงมีกลิ่นหอมหรือไม่ จากนั้นสังเกตุดูว่า นอกจากกลิ่นของกาแฟแล้วมีกลิ่นอื่นปนอยู่ในกลิ่นของกาแฟหรือไม่

    คุณไม่ควรซื้อกาแฟคั่วบดจากตามซูเปอร์มาเก็ต เนื่องจากจะมีกลิ่นของอาหารอื่นๆ ปนอยู่ด้วย หากเป็นไปได้ คุณควรซื้อเมล็ดกาแฟคั่วมาบดเองและบดที่จะชงเฉพาะที่จะดื่ม หรือบดไว้เพียงวันต่อวัน หรือเก็บไว้ 2-3 วัน เท่านั้น เพราะกาแฟคั่วที่บดทิ้งไว้นานเกินไปจะสูญเสียรสชาติและกลิ่น

    ไม่จำเป็นต้องเก็บกาแฟเข้าตู้เย็น เพราะจะเป็นการทำลายมวลรวมของเมล็ดกาแฟจากความเย็น และความชื้นในตู้เย็น ควรเก็บกาแฟไว้ในที่ร่มแห้ง เย็น ไม่ควรมีแสงสว่าง สารเคมี หรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรงๆ เพราะกาแฟมีคุณสมบัติเป็นตัวดูดซับกลิ่น 

ปัจจุบัน  โรงงานบางแห่งนิยมบรรจุเมล็ดกาแฟดิบไว้ในถุงพลาสติกสุญญากาศ และเก็บไว้ในอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ที่ความชื้น 41% ซึ่งสามารถยืดอายุกาแฟดิบได้นานประมาณ 3 ปี






ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟคั่วให้สดนาน


วันนี้ เราจะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆ สำหรับการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้สดนาน ที่ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ กาแฟคั่วแล้ว ไม่ว่าคั่วอ่อนหรือเข้ม ก็จัดว่าเป็นสินค้าที่เสื่อมสภาพได้ง่าย ความเข้าใจและความตระหนักว่ากาแฟเป็นสินค้าที่เปราะบางและง่ายต่อการเสื่อมคุณภาพจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการรักษาคุณภาพของกลิ่นอันหอมของเมล็ดกาแฟและรวมถึงคุณภาพเครื่องดื่ม เริ่มต้นที่การเก็บรักษากาแฟในสถานที่เหมาะสมจะช่วยให้กาแฟไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรนะค่ะ




ข้อแนะนำในการเก็บรักษากาแฟคั่วสำเร็จ

1.       เก็บเมล็ดกาแฟกลับคืนหีบห่อเดิม จากนั้นไล่อากาศออกจากถุงให้หมด

2.       เก็บในภาชนะทึบ และปิดสนิทที่สามารถป้องกันแสงแดด อากาศ และความชื้นได้เป็นอย่างดี เช่น กระปุกเซรามิกแบบฝามีซิลยาง เป็นต้น

3.       ปิดปากถุงให้แน่น (โดยให้พับปากถุงหลายๆ ชั้นยิ่งดี) ด้วยเทปกาว หรือมัดด้วยยางให้แน่นหนา และนำทั้งถุงใส่ในขวดโหลสุญญากาศ ดังที่กล่าวมาแล้ว ถ้าเป็นโหลที่ทำจากวัสดุประเภทเซรามิกส์จะดีมากค่ะ

4.       ควรเก็บกาแฟบดและเมล็ดกาแฟไว้ในที่แห้ง และเย็น (แต่ไม่ใช่เก็บไว้ในตู้เย็น) ไม่ควรมีแสงสว่าง หรือเครื่องเทศ เนื่องจากกาแฟมีคุณสมบัติดูดกลิ่นได้ดีค่ะ หรือถ้าถุงหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์มีความแน่นหนาพอป้องกันกลิ่น และความชื้นได้จะเลือกเก็บในตู้เย็นก็ได้ค่ะ

5.       ใช้เสร็จทุกครั้งต้องปิดภาชนะในทันที

6.       ถ้ามีเครื่องบดให้บดเท่าที่ต้องใช้ครั้งต่อครั้ง บดแล้วใช้ให้หมดในคราวเดียว เพราะกาแฟที่บดแล้วจะสูญเสียกลิ่นและรสชาติได้ไวกว่ากาแฟที่เป็นเมล็ด 

7.       ถ้าไม่มีเครื่องบดและสั่งซื้อกาแฟบดแล้ว ให้ระมัดระวังในการเก็บรักษาโดยเฉพาะการเปิดและปิด ภาชนะ เพื่อรักษาคุณภาพไว้ให้นานที่สุด




แหล่งที่มา: preda-roastinghouse
ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

สายพันธ์ุกาแฟ (coffee bean)

กาแฟนั้นได้มาจากเมล็ดในผลของต้นกาแฟที่มีเรื่องเล่ากันว่า กาแฟพบครั้งแรกที่ประเทศเอธิโอเปีย ผลของกาแฟจะมีขนาดเล็ก สีแดงเหมือนเชอร์รี่ ก็เลยเรียกกันว่า Coffee Cherries แต่ที่เราเอามาดื่มคือเมล็ดที่อยู่ข้างในที่เรียกว่าบีนส์ (Beans)...เมล็ดกาแฟที่มีขายทุกวันนี้มีอยู่ 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ

พันธุ์กาแฟอาราบิก้า (Arabica) 
ป็นกาแฟสายพันธุ์ที่ดีที่สุด คือ มีปริมาณสารกาแฟชั้นดี มีกลิ่น และรสชาติดีที่สุด แต่มีข้อเสียคือปลูกยาก ดูแลรักษายาก และต้องเลือกปลูกบนพื้นที่สูงๆ เท่านั้น ผลผลิตต่อต้นจะประมาณครึ่งเดียวของพันธุ์โรบัสต้า แต่เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ใครๆ ก็ต้องการก็เลยปลูกกันเยอะมาก มีปริมาณการผลิตถึง 80% ของกาแฟในตลาดโลก เป็นพันธุ์อาราบิก้า พันธุ์อาราบิก้ามีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 1.1-1.7% หรือประมาณครึ่งหนึ่งของพันธุ์โรบัสต้าในปริมาณเท่ากัน


พันธุ์โรบัสต้า (Robusta) 
ปลูกง่าย ทนแล้ง ต้านทานโรคได้ดี และให้ผลผลิต แต่มีรสขมและฝาด เนื่องจากมีปริมาณคาเฟอีนสูง ข้อดีคือมีกลิ่นหอม จึงมักนิยมผสมกาแฟโรบัสต้าในกาแฟสูตรต่างๆ หรือนำไปทำกาแฟสำเร็จรูป

พันธุ์ไลเบริก้า 
ปลูกได้ง่ายเหมือนโรบัสต้า มีที่มาจากแอฟริกา คุณภาพอยู่ระดับเดียวกับโรบัสต้า


นอกจากนี้ ก็ยังมีกาแฟอีกประเภทที่ปรุงด้วยสูตรพิเศษเฉพาะตัว โดยการผสมกาแฟพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติเด่นที่ต่างออกไปเรียกว่า เบลนด์ (Blend) บางครั้งการเบลนด์ก็เป็นการคลุกกาแฟบดที่ต่างๆ กันเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้รสชาดแปลกออกไป ซึ่งร้านกาแฟแต่ละแห่งจะรักษาสูตรเฉพาะนี้ไว้เป็นของตัวเอง มอคคา (Mocca/Mocha) เป็นชื่อกาแฟที่มีลักษณะเฉพาะตัว คือ มีเม็ดเล็ก และมีความเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เมล็ดกาแฟมอคคา ส่วนใหญ่จะมาจากเมืองมอคคา ประเทศเยเมน ส่วนเครื่องดื่มมอคคา มักใช้เรียกกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อมมอคคา หรือน้ำเชื่อมรสช็อคโกแลต



แหล่งที่มา: gorkorcor
ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต