ดังนั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกันนะค่ะ
ว่าประเภทของกาแฟต่างๆ มีส่วนผสมอะไรบ้าง รสชาด และมีความแตกต่างกันตรงไหน คราวนี้ทุกครั้งที่คุณสั่งกาแฟถ้วยใหม่มาดื่ม
คุณจะได้สามารถตัดสินใจได้ว่า อยากจะดื่มกาแฟอะไรที่อร่อย ถูกคอ
ถูกปากของคุณยังไงล่ะค่ะ
![]() |
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัดทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเปรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม
Tips เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเอสเพรสโซ่
ต้องดื่มในขณะที่ชงเสร็จใหม่ เนื่องจากเอสเพรสโซ่มีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียรสชาดของเอสเพรสโซ่ที่แท้จริงก็ควรดื่มขณะที่ชงเสร็จใหม่ๆ
ค่ะ
อเมริกาโน หรือ คาเฟ่ อเมริกาโน (café Americano) มีต้นกำเนิดมาจาก America ว่ากันว่าเอสเพรสโซ่เพรียวๆนั้น
เข้มข้นเกินไปสำหรับคอกาแฟชาวอเมริกา
ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงสูตรได้เป็นกาแฟอเมริกาโนที่เป็นการเอา Espresso ที่เข้มข้นมาผสมน้ำให้มันจางลง
นั่นเองค่ะ
ลาเต้ (Latte) คำว่าลาเต้ เป็นภาษาอิตาลี มีความหมายที่แปลว่า
“นม” นั่นเองค่ะ
กาแฟลาเต้นี้เป็นที่นิยมอย่างมากนอกประเทศอิตาลีช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 ค่ะ นอกจากนี้ กาแฟลาเต้ที่รู้จักกันในอิตาลี ยังมีความหมายที่ใกล้เคียงกับภาษาฝรั่งเศส
"café au lait" ซึ่งหมายถึง กาแฟกับนม อีกด้วยค่ะ
ลาเต้มีส่วนผสมหลัก คือ เอสเพรสโซ ผสมนมร้อน รสชาดกาแฟลาเต้จะออกหวานๆ มันๆ น่าจะเป็นอะไรที่ทานง่ายสุดในบรรดากาแฟค่ะ
![]() |
คาปูชิโน่มีส่วนผสมหลัก คือ เอสเพรสโซ่
ใส่นมเหมือนกัน แต่คาปูชิโน่จะเข้มข้นกว่าลาเต้ และเน้นเรื่องฟองนมมากกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คาปูชิโนมีรสชาติของกาแฟเข้มกว่าลาเต้ค่ะ
มอคค่า (Mocca) สำหรับที่มาของกาแฟมอคค่านี้ ก็เนื่องมาจาก
กาแฟมอคค่าเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง และปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่าในประเทศเยเมนนั่นเองค่ะ มอคค่าเป็นเมล็ดกาแฟที่มีสีและกลิ่นคล้ายชอคโกแลต
ซึ่งก็นับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟมอคค่าค่ะ
นอกจากนี้มอคค่ายังหมายถึงกาแฟที่ผสมพวกโกโก้
และชอกโกแลตด้วย เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความหอม
หวาน และมันของช็อคโกแลตที่ผสมอยู่ด้วยค่ะ
แหล่งที่มา: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น