วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ศิลปะการชงกาแฟ

     นอกจากจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องสัดส่วนของส่วนผสมในกาแฟแต่ละถ้วย แต่ละสูตรแล้ว ก็ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกมากที่อาจส่งผลให้กาแฟถ้วยโปรดมีรสชาติผิดเพี้ยนได้ จึงถือได้ว่าการชงกาแฟนั้นต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการชง ต้องใส่ใจในทุกๆ ส่วนรายละเอียด เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติดี กลมกล่อม




Tips เล็กๆ น้อยๆ ของการชงกาแฟ
  •   ต้องดูแลเครื่องชงประเภทต่างๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ ระวังไม่ให้อบ หรืออับด้วยกลิ่นแปลกปลอมต่างๆ แม้กระทั่งกลิ่นอับของความชื้น หรือการเก่าเก็บ (เพราะกลิ่นเหล่านี้จะสร้างปัญหาให้กาแฟถ้วยต่อไปของคุณได้ค่ะ)


  •   ต้องศึกษาเครื่องชงแต่ละชนิดว่าใช้กาแฟบดชนิดใด และใช้เวลาชงเท่าใด


  •   ควรใส่ปริมาณผงกาแฟเท่าเดิมเสมอทุกครั้ง โดยส่วนใหญ่ผงกาแฟที่ใส่แต่ละครั้งก็จะอประมาณ 7-10 กรัม ในตะแกรงชงแบบ 1 ช็อต ส่วน 14-18 กรัม ในตะแกรงแบบ 2 ช็อต ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อเครื่อง รุ่นเครื่องด้วย เพราะว่าการออกแบบของตะแกรงช็อตของแต่ละยี่ห้อนั้นมันไม่เหมือนกัน จึงมีปริมาณการใส่ที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไปด้วยค่ะ


  • *กาแฟที่บดละเอียดจนเกินไป  จะใช้เวลาชงมากกว่าปกติ และทำให้กาแฟมีรสชาดขม  ส่วนกาแฟที่บดหยาบเกินไป  จะใช้เวลาชงน้อยกว่าปกติ  ทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาดเจือจาง ทั้งนี้เพราะน้ำที่ใช้ชงกาแฟมีโอกาสดูดซับและสัมผัสกาแฟต่างกัน รสชาดกาแฟที่ได้จึง



  •    ต้องใช้เมล็ดกาแฟคั่วที่บดใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้กาแฟถ้วยนั้นของคุณมีกลิ่นหอมชวนดื่มมากเป็นพิเศษและห้ามนำกาแฟที่ผ่านการชงแล้วกลับมาชงใหม่เป็นอันขาด

  •     ระยะเวลาในการสกัดน้ำกาแฟออกมา ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่ใช้ในการสกัดน้ำกาแฟ (กดปุ่มชงพร้อมกับจับเวลา)ที่เราต้องทำให้ได้ก็คือ 20-30 วินาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องชงกาแฟของแต่ละรุ่น ความต้องการของแต่ละบุคคล  ปริมาณผงกาแฟ อุณหภูมิน้ำที่ใช้ด้วยค่ะ

  •    อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมและดีที่สุดในการชงกาแฟแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 94 องศาเซลเซียส

  • ปริมาณน้ำที่ออกมาในแต่ละครั้งที่เราชงกาแฟมีความเหมาะสม คือ โดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นตะแกรง 1 ช็อต เราก็จะสกัดน้ำกาแฟออกมาให้ได้ปริมาณประมาณ 1 ออนซ์ แต่ถ้าเป็นตะแกรง 2 ช็อต น้ำกาแฟที่สกัดออกมาก็จะได้ประมาณ 2 ออนซ์ที่รวมมากับครีม่าแล้วนะค่ะ ซึ่งปริมาณอันนี้เป็นการบอกคร่าวๆนะคะ ทั้งนี้ต้องดูควบคู่กับเรื่องเวลาในการสกัดน้ำกาแฟออกมาด้วยค่ะ


  • ภาชนะหรือถ้วยที่ชงกาแฟต้องสะอาดไม่มีฝุ่นละอองจับหรือสกปรกและต้องไม่เป็นถ้วยเก่าเก็บ


  • น้ำที่นำมาชงกาแฟควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำดื่ม ปราศจากคลอรีน กลิ่นและสี และหากไม่ชอบกาแฟที่มีรสชาติแปร่งๆ ก็ไม่ควรใช้น้ำแร่ หรือน้ำประปา


  • เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาดที่แตกต่างของกาแฟ อาจเติมน้ำตาล คาราเมล นม เป็นต้น

         อ้อ..หลังจากที่ชงกาแฟเสร็จแล้ว ควรดื่มกาแฟขณะที่มันร้อนอยู่หรือภายใน 20 นาทีนะค่ะ เนื่องจากกาแฟที่ไม่ปรุงรสเมื่อตั้งทิ้งไว้นาน 20 นาที กลิ่นของมันจะจางหาย


สุดท้าย อย่างไรเสียที่กล่าวมาทั้งหมดก็คงต้องลองไปทำกันดูนะค่ะ แต่ขอเน้นย้ำอีกนิดนะค่ะว่า..สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการชงกาแฟเป็นเบื้องต้นเลยก็คือ เวลาในการสกัด ปริมาณน้ำกาแฟที่ออกมา ใส่ผงกาแฟเท่าเดิมเสมอ แรงกดเท่าเดิมเสมอ แล้วก็ดูว่าเวลาเราได้มั๊ย ถ้าเวลายังไม่ได้ แต่ถ้าเราแน่ใจว่าขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดควบคุมมันได้แล้ว ก็มาปรับความละเอียดที่เครื่องบดกาแฟเพิ่มให้เวลามันได้ค่ะ






แหล่งที่่มา:bluekoff
ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น